ทุกโอกาส
คุณเคยจับมังกรไหม ผมเคยจับเมื่อตอนที่ลูกชายชวนให้ดาวน์โหลดเกมในโทรศัพท์มือถือ เกมนี้สร้างแผนที่ซ้อนในโลกความจริง ทำให้คุณได้จับสัตว์ สีสันสดใสรอบตัวคุณ
เกมนี้ต่างจากเกมอื่นในโทรศัพท์มือถือตรงที่ต้องอาศัยการเคลื่อนไหว ทุกที่ที่คุณไปล้วนเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ในเกม ผลลัพธ์คือ ผมได้เดินมากกว่าเดิม ทุกครั้งที่ผมและลูกชายเล่นเกม เราพยายามอย่างมากที่จะจับสัตว์ที่อยู่รอบตัวเราให้ได้มากที่สุด
เป็นเรื่องง่ายที่เราจะจดจ่อหรือกระทั่งหมกมุ่นอยู่กับเกมที่สร้างมาเพื่อดึงดูดผู้คนเล่น แต่เมื่อผมเล่นเกม ผมได้คิดถึงคำถามว่า ผมตั้งใจมากเท่านี้หรือไม่ที่จะเพิ่มโอกาสฝ่ายจิตวิญญาณรอบตัวผม
เปาโลรู้ว่าเราจำเป็นต้องตื่นตัวต่องานของพระเจ้ารอบตัวเรา ในโคโลสี 4 ท่านขอให้อธิษฐานเผื่อโอกาสในการประกาศข่าวประเสริฐ (ข้อ 3) และท้าทายว่า “จงปฏิบัติกับคนภายนอกด้วยใช้สติปัญญา โดยฉวยโอกาส” (ข้อ 5) เปาโลไม่อยากให้ชาวโคโลสีพลาดโอกาสที่จะเป็นพยานถึงพระคริสต์ แต่การจะทำอย่างนั้น ต้องอาศัยการมองเห็นความต้องการและตัวตนของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง แล้วเข้าหาโดย “ประกอบด้วยเมตตาคุณ” (ข้อ 6)
ในโลกเรามีสิ่งอื่นที่พยายามแย่งเวลาและความสนใจจากเรามากกว่าเกมมังกรในจินตนาการ แต่พระเจ้าเชื้อเชิญให้เราเดินทางผจญภัยในโลกความจริง เสาะหาโอกาสที่จะเป็นพยานถึงพระองค์ทุกวัน
ตั้งใจเต็มที่
เทคโนโลยีปัจจุบันดูจะเรียกร้องความสนใจจากเราอยู่ตลอด “ความมหัศจรรย์” ของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ ทำให้เราเข้าถึงความรู้ที่มนุษยชาติรวบรวมไว้ได้อย่างน่าทึ่ง แต่การเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้บ่อยๆทำให้หลายคนต้องสูญเสียบางอย่าง
ลินดา สโตนนักเขียนได้บัญญัติวลีว่า “การแบ่งความสนใจให้ตลอดเวลา” คือความรู้สึกในยุคใหม่ที่เรามักอยากรู้ตลอดเวลาว่ามีอะไรเกิดขึ้น “รอบตัว” เราจะได้ไม่พลาดอะไรไป ฟังดูเหมือนจะนำไปสู่โรควิตกกังวลเรื้อรัง แต่เป็นอย่างนั้นจริงๆ
แม้อัครทูตเปาโลจะต่อสู้กับความกังวลที่เกิดจากสาเหตุอื่น แต่ท่านรู้ว่าจิตวิญญาณของเราต้องแสวงหาสันติสุขในพระเจ้า ด้วยเหตุนี้ ในจดหมายที่ท่านเขียนถึงผู้เชื่อใหม่ที่ต้องอดทนต่อการข่มเหง (1 ธส.2:14) เปาโลจึงลงท้ายจดหมายด้วยการหนุนใจว่า “จงชื่นบานอยู่เสมอ จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณในทุกกรณี” (5:16-18)
การอธิษฐาน “อย่างสม่ำเสมอ” อาจฟังดูแล้วเป็นไปได้ยาก แต่เราดูโทรศัพท์ของเราบ่อยแค่ไหน เราน่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นการพูดคุยกับพระเจ้าบ่อยๆแทน
ที่สำคัญกว่านั้น เราน่าจะเปลี่ยนความอยาก “รู้” ทุกสิ่งตลอดเวลา ให้เป็นการพักสงบด้วยใจอธิษฐานต่อพระพักตร์ของพระเจ้าอยู่เสมอ เมื่อเราพึ่งพาองค์พระวิญญาณ เราจะได้เรียนรู้การให้ความสนใจทั้งหมดกับพระบิดาในสวรรค์ตลอดเวลาที่เราดำเนินชีวิตแต่ละวัน - ARH
หอเอน
คุณคงเคยได้ยินเรื่องหอเอนอันโด่งดังที่เมืองปิซาในอิตาลี แต่คุณเคยได้ยินเรื่องหอเอนในซานฟรานซิสโกหรือไม่ คืออาคารมิลเลเนียมทาวเวอร์ สร้างขึ้นในปี 2008 เป็นตึกระฟ้าสูง 58 ชั้นตั้งตระหง่านแต่เอียงเล็กน้อยอยู่ใจกลางเมืองซานฟรานซิสโก
ปัญหาคือวิศวกรไม่ได้ขุดดินให้ลึกลงไปมากพอเพื่อวางฐานราก ตอนนี้พวกเขาจึงถูกบังคับให้เสริมฐานรากด้วยการซ่อมแซมที่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าตอนที่เริ่มสร้างตึก เป็นการซ่อมที่หลายคนเชื่อว่าจำเป็นเพื่อป้องกันตึกถล่มจากแผ่นดินไหว
บทเรียนที่เจ็บปวดก็คือ รากฐานเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อรากฐานของคุณไม่มั่นคง หายนะก็เกิดขึ้นได้ พระเยซูทรงสอนบางสิ่งที่คล้ายกันนี้ในตอนท้ายคำเทศนาบนภูเขา ในมัทธิว 7:24-27 พระองค์เปรียบเทียบช่างก่อสร้างสองคน คนหนึ่งสร้างบนศิลา อีกคนหนึ่งสร้างบนทราย เมื่อพายุพัดมา มีเพียงบ้านที่มีรากฐานมั่นคงที่ยังตั้งอยู่ได้
สิ่งนี้มีความหมายอย่างไรต่อเรา พระเยซูตรัสอย่างชัดเจนว่าชีวิตของเราต้องสร้างขึ้นผ่านการเชื่อฟังและวางใจในพระองค์ (ข้อ 24) เมื่อเราพักพิงในพระองค์ ชีวิตของเราจะพบรากฐานอันมั่นคงผ่านฤทธานุภาพและพระคุณอันไม่สิ้นสุดของพระเจ้า
พระคริสต์ไม่ได้สัญญาว่าเราจะไม่เผชิญกับพายุ แต่ตรัสว่าพระองค์ทรงเป็นศิลาของเรา พายุจะไม่สามารถพัดให้รากฐานปราการแห่งความเชื่อของเราในพระองค์ทะลายลงได้
พระเจ้าผู้อยู่เหนือ...ตะปู
ผมเห็นแสงสะท้อนจากล้อตอนจะขึ้นรถ มีตะปูที่ปักอยู่ด้านข้างล้อหลัง ผมฟังดูเพื่อหาเสียงลมรั่ว ขอบคุณพระเจ้าที่ตะปูอุดรูไว้ อย่างน้อยก็ครู่หนึ่ง ผมสงสัยว่าตะปูปักอยู่ตั้งแต่เมื่อไร กี่วัน กี่สัปดาห์ นานเท่าไหร่แล้วที่ผมได้รับการปกป้องจากอันตรายที่ผมไม่รู้ว่ามีอยู่
พระบิดา พระองค์อยู่ที่ไหน
"พ่อ พ่ออยู่ไหน” ผมกำลังขับรถเข้าบ้านตอนที่ลูกสาวโทรมาหาผมด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ผมต้องถึงบ้านตอนหกโมงเย็นเพื่อพาลูกไปซ้อมละครและผมก็ตรงเวลา แต่เสียงของลูกสาวบอกว่าลูกไม่ไว้ใจผม ผมตอบเธอว่า “พ่ออยู่นี่ ทำไมไม่เชื่อใจกันเลย”
สู้ต่อไป
พ่อตาของผมเพิ่งเข้าสู่วัย 78 ปี เมื่อครอบครัวของเรามาพบกันเพื่อให้เกียรติแก่ท่าน มีคนถามว่า “อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านเรียนรู้ในชีวิตนี้” ท่านตอบว่า “สู้ต่อไป”
เมื่อรู้ว่าใครชนะ
หัวหน้าของผมเป็นแฟนตัวยงของทีมบาสเก็ตบอลมหาวิทยาลัยที่ชนะเลิศการแข่งขันระดับประเทศในปีนี้ เพื่อนร่วมงานจึงส่งข้อความไปแสดงความยินดีกับเขา แต่หัวหน้าของผมยังไม่มีโอกาสได้ดูการแข่งขันรอบสุดท้ายนั้นเลย เขาบอกว่าเขาโมโหที่รู้ผลการแข่งขันเสียก่อน แต่ก็ยอมรับว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องกังวลตอนที่ผลการแข่งขันสูสี เขารู้ว่าใครชนะ
สุนัขบุลล์ด็อกกับหัวรดน้ำในสวน
เกือบทุกเช้าตอนหน้าร้อน ที่สวนหลังบ้านเรามีเหตุการณ์น่าชมระหว่างหัวรดน้ำในสวนกับสุนัขบุลล์ด็อก หัวรดน้ำเริ่มทำงานราว 6.30 นาฬิกาสักพักเจ้าฟีฟี่ (ชื่อที่ครอบครัวเราเรียกมัน) สุนัขบุลล์ด็อกก็ตามมา
ไม่หนีอีกแล้ว
วันที่ 18 กรกฎาคม 1983 เรืออากาศเอกคนหนึ่งของกองทัพอากาศสหรัฐหายตัวไปจากแอลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโกอย่างไร้ร่องรอย 35 ปีต่อมา ทางการพบตัวเขาที่รัฐแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า “เขารู้สึกท้อแท้กับงาน” จึงหนีไปเสียเฉยๆ
เขาต้องหนีถึง 35 ปี ใช้เวลาครึ่งชีวิตในความหวาดระแวง ความวิตกกังวลและหวาดระแวงคงติดตามชายคนนี้ไปทุกที่
ผมยอมรับว่าผมพอจะรู้เรื่องการ “หนี” ซึ่งทางกายภาพในชีวิตผมไม่เคยต้องหนีจากสิ่งใดอย่างกะทันหันในชีวิต แต่หลายครั้งผมรู้ว่าพระเจ้าอยากให้ผมทำบางอย่าง ต้องเผชิญหรือสารภาพบางอย่าง แล้วผมไม่อยากทำผมจึงหนีในแบบของผม
ผู้เผยพระวจนะโยนาห์มีชื่อเสียงไม่ดี เพราะท่านหนีจากงานที่พระเจ้าทรงใช้ให้ไปเทศนาที่เมืองนีนะเวห์ (ยนา.1:1-3) แต่ท่านหนีพระเจ้าไม่พ้นอย่างแน่นอน คุณคงได้รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น (ข้อ 4,17) เรื่องพายุ ปลา ถูกปลากลืน และการได้ใคร่ครวญอยู่ในท้องสัตว์มหึมาซึ่งทำให้ท่านหันมาเผชิญสิ่งที่ได้ทำและร้องขอให้พระเจ้าช่วย (2:2)
โยนาห์ ไม่ใช่ผู้เผยพระวจนะที่สมบูรณ์แบบ แต่เรื่องราวที่น่าจดจำของท่านหนุนใจผม เพราะแม้ท่านจะดื้อรั้น แต่พระเจ้าก็ไม่ละทิ้งท่าน ยังทรงตอบคำอธิษฐานที่สิ้นหวังและทรงพระคุณฟื้นฟูผู้รับใช้ ผู้ไม่เต็มใจทำงานของพระองค์ (ข้อ 2) ดังที่พระองค์ทรงกระทำต่อเรา